รวม 23 Technical SEO Tactics สำหรับปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ SEO แบบเต็มสูบ

รวม Technical SEO Tactics สำหรับใช้ในการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้รองรับ SEO แบบเต็มสูบสำหรับนักทำ SEO เริ่มต้นอย่างผม และคุณได้ทำการปรับแต่งเว็บไซต์ไม่ว่าจะเป็นเว็บที่สร้างขึ้นและเปิดตัวไปแล้ว และเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้เริ่มสร้าง โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นการรวบรวมมาจากความเข้าใจของผมเองนะครับ อาจจะถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็ต้องขออภัยจริงๆ ถ้าตกล่นตรงไหนก็แนะนำตักเตือนกันมาก็แล้วกัน จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง บทความนี้จะเป็นการทำ SEO แบบสายขาวล้วนนะครับ ไม่มะโน ไม่มีลิงค์ SEO Cloud ระดับเทพรอรับอันดับทุกวันเหมือนที่อื่นๆ เราเน้นทำ SEO แบบ OTOP อ.บ.ต. หนึ่งตำบล หนึ่ง SEO หากท่านกำลังมองหา SEO ระดับเทพละก็ปิดหน้านี้ไปเลย

บทความนี้จะเน้นการปรับแต่งเว็บไซต์ตามที่แจ้งไว้ในครับ ส่วนมากจะเป็นเทคนิคเล็กๆน้อยๆที่มองข้ามไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว จงอย่าลืมว่า  SEO Score ต่างกันแค่แต้มเดียวนั้นก็สร้างความแตกต่างอย่างมากมายได้เช่นกันเรามาเข้าเรื่องกันเลย

Technical SEO Tactics 


1.ทำให้เว็บไซต์รองรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ สมาร์ตโฟน โดยทำให้สามารถแสดงเว็บไซต์แบบ responsive เมื่อเข้าชมด้วยสมาร์ตโฟน เพราะเว็บไซต์ที่ไม่รองรับ จะถูกลดอันดับลง เพราะว่าให้ประสบการณ์ที่ไม่ดีกับผู้ใช้ในการเข้าเว็บ

2.ทำให้เว็บไซต์รองรับ มาตรฐาน SSL เพราะว่าทำให้เว็บไซต์มีความปลอดภัยมากกว่าที่ไม่มี การติดตั้งและหากมีการใช้งานข้อมูลสำคัญก็จะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางกูเกิลก็ออกมาบอกว่าไม่มีผลต่ออันดับ แต่ในอนาคตไม่แน่ยังไงก็มีไว้ดีกว่าไม่มีสร้างความเชื่อใจให้ลูกค้าดีกว่า

3.ทำให้เว็บไซต์โหลดเร็วที่สุด โดยตัวนี้เพิ่งทำการเพิ่มเข้ามาเป็นหนึ่งแฟคเตอร์ที่สำคัญ ในการพิจารณาอันดับจากกูเกิล โดยการพยายามการโหลดไฟล์ต่างๆที่ไม่จำเป็น  หรือลดขนาดไฟล์ให้มีขนาดเล็กลง จะช่วยให้เว็บโหลดได้เร็วขึ้น

4.ใช้ข้อมูลจาก Google Analytics ในการวิเคราะห์เว็บไซต์ โดยสามารถติดตามสถิติต่างๆในเว็บไซต์ของเราได้อย่างละเอียดมากว่าผู้ใช้มาจากไหน ทำอะไรบ้าง อยู่นานแค่ไหน และอื่นๆที่เราสามารนำเอาข้อมูลต่างๆมาปรับปรุ่งเว็บไซต์ของเราได้

5.ใช้งาน Google Search Console เพราะคุณสามารถรับทราบปัญหาต่างๆที่เกิดในเว็บไซต์คุณได้ทันทีและสามารถแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆได้อย่างถูกต้อง

6.สร้าง Sitemap.xml ในการส่งไปเพื่อให้ Google พิจารณาผ่านทาง Google Search Console

7. ติดตามรูปแบบของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่จะสามารถเลือกคีย์เวิร์ดให้ถูกกลุ่มเป้าหมายหลักของเว็บไซต์ ว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์เราเป็นกลุ่มคนที่มีอายุเท่าไหร่ ระดับไหน วัยเรียน ทำงาน หรือวัยชรา เพื่อที่จะได้เลือกเนื้อหาในเว็บไซต์ให้เหมาะสม

8.ศึกษาคู่แข่งของคุณ ว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้เทคนิคอะไรอยู่ และจะเอาชนะเขาได้อย่างไรด้วยการวิเคราะห็ข้อมูลที่หาได้จากเว็บไซต์ของคู่แข่ง

9.ใช้ทั้งคีย์เวิร์ดหลัก และ คีย์เวิร์ดแบบ Long Tail เพื่อเพิ่มปริมาณ ทราฟฟิค ทีละเล็กที่ละน้อย รวมๆกันเข้าแล้วก็มากขึ้นแน่นอน ไม่สมควรที่จะมองข้าม long-tail keywords

10.หาคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียง และเกี่ยวข้องในเว็บไซต์ของเรา เพราะว่า ทราฟฟิค จำนวนหนึ่งอาจจะมาจากคีย์เวิร์ดที่ไม่ได้ตรงตัวเสียทีเดียวที่จะทำให้ผู้เยี่ยมชมมายังเว็บไซต์ของเรา

11.หาคีย์เวิร์ดหลักที่คู่แข่งของคุณใช้ และพยายามสร้างเนื้อหาในคีย์เวิร์ดดังกล่าวด้วยเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งของคุณ

12.เลือกคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดก่อนการอันดับ โดยเลือกคีย์เวิร์ดที่สามารถนำไปสู่การขายมากที่สุดก่อน และคู่แข่งในคำค้นน้อยก่อนจะไปเล่นคีย์ยาก

13.เนื้อหาในแต่ละหน้าต้องเป็นเนื้อหาที่ดี มีคุณค่า และมีความยาวอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 500 ตัวอักษร ยิ่งยาวยิ่งดี อาจจะสัก 1200 -3500 คำไทยจะเหมาสมมาก

14.ในบทความควรมีคำสำคัญที่จะใช้ทำอันดับ 2-3 คำใน 100 คำของ บทความเท่านั้น และคิดเป็น 2-3 เปอร์เซ็นต์ในบทความ ไม่มากไม่น้อยกว่านี้จะเหมาะสมที่สุด

15.มีการใช้คีย์เวิร์ดหลักในชื่อบทความ
16.มีการใช้คีย์เวิร์ดหลักใน meta description
17.มีการใช้คีย์เวิร์ดหลักในย่อหน้าแรกของบทความ
18.มีการใช้คีย์เวิร์ดหลักในชื่อภาพ และ alt tag
19.มีการใช้ชื่อภาพด้วยคีย์เวิร์ดหลัก เช่น seo.jpg
20.มีการใช้คีย์เวิร์ดหลักใน URL ของบทความนั้นๆ
21.ใช้โครงสร้าง URL ที่เข้าใจได้เป็นคำๆ ไม่ใช่ใช้ตัวเลขที่ไม่สื่อความหมาย
22.ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้าง ในเว็บไซต์เช่น images, reviews และ product prices
23.ตรวจหา duplicated content ภายในเว็บไซต์

No comments:

Post a Comment